วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ผจญมาร (ตอนที่ 7)

โดย เผด็จ ผ่องสวัสดิ์ บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ปัจจุบัน คือ พระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ
อ้างอิงจาก facebook โอวาทอันทรงคุณค่าจากพระพ่อ



***เข้าทรงโกหก
.....เมื่อหายดีแล้ว ข้าพเจ้าก็ฝึกฝนต่อไป ถึงการเลี้ยงผี ไล่ผีจากท่านอาจารย์หลายท่านตลอดจนการเข้าทรงด้วย
.....คราวนี้โชคดีเป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้พบความจริงว่า
.....การเข้าทรง 100% เป็นเรื่องของการโกหก
.....ทำไมจึงโกหก?
.....ประการแรก ในการเข้าทรง วิญญาณที่จะมาเข้าจริงๆเพียงประมาณไม่เกิน 40 %
.....ส่วนอีก 60% เป็นการเข้าหลอกๆ คือคนทรงแกล้วทำท่าวิญญาณมาเข้า แล้วแสดงเอง
.....หรือถ้าไม่แกล้งก็เกิดจากความเคยชิน จึงแสดงอาการประดุจผีเข้าคือเริ่มจะเป็นผีตั้งแต่ก่อนตายนั่นเอง
.....ประการที่สอง วิญญาณที่มาเข้าจริงๆนี่แหละแต่ละตัวต้องอ้างตนว่าเป็นเทพองค์นั้น พรหมองค์นี้ทุกราย
.....อ้างว่าตัวเป็นโพธิสัตว์มาเข้าบ้างก็มี เป็นหลวงพ่อทวดมาเข้าบ้างก็มี โกหกทั้งนั้น
.....วิญญาณของพวกเทพหรือ ผู้มีธรรม ท่านไม่ยอมลงมาหรอก กลิ่นสาบมนุษย์มันแรง ท่านเหม็นสาบมนุษย์จะแย่อยู่แล้ว)
.....ไอ้พวกที่มาเข้าล้วนเป็นพวกผีไม่มีญาติหรือตายโหงเสียโดยมาก หรือไม่เช่นนั้นก็เป็นพวกวิญญาณของพวกที่เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เป็นคนเลวแสนเลว
.....”บางท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมนะพวกเข้าทรงจึงสามารถทายอะไรต่ออะไรได้ถูกต้องแม่นยำราวกับตาเห็น
.....ได้บอกแล้วว่าวิญญาณที่มาเข้าทรงเป็นพวกปีศาจต่ำๆมันเหล่านั้นจะต้องร่อนเร่พเนจร ใช้กรรมของมันไปจนกว่าจะสิ้นเวร
.....ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นร้อยๆ พันๆปี บางตัวอาจเป็นหมื่นปีก็มี เมื่อมันอายุยืนอย่างนี้ เหตุการณ์ในอดีตมันจึงสามารถบอกได้หมด
.....และมีพวกพ้องบอกข่าวส่งต่อๆกันไปตามแต่อำนาจฤทธิ์ตบะฝ่ายมารที่มันทำมา
.....มันจึงสามารถพูดทายได้แม่น ทำให้เราหลงกลัวเกรงนับถือเป็นการตัดไม้ข่มนาม
.....ในเวลาเดียวกันมันก็จะเริ่มขู่เท่านั้นเท่านี้ตามวิสัยผี วิสัยเปรตจนกระทั่งเราตกใจกลัว
.....คราวนี้มันจะเริ่มทายอนาคต แต่คนทรงไม่อาจบอกอนาคตที่แท้จริงได้ นอกจากเดาเอาผิดบ้างถูกบ้างไปตามเรื่อง
.....เพราะวิญญาณหรือปีศาจเหล่านั้นที่มาเข้าทรงจะรู้ได้แต่เพียงอดีตกับปัจจุบันเท่านั้น มันไม่รู้อนาคต
.....ถ้ามันรู้อนาคตมันคงไม่ต้องมาเป็นเปรต ดังนั้นเมื่อไร่มันทายอนาคต เมื่อนั้นมันก็กำลังโกหกทุกครั้งที่ท่านไปหาหมอผีคนทรงเข้าจะต้องทายอนาคต
.....นี่แหละทำไมข้าพเจ้าจึงว่า การเข้าทรงเป็นการโกหก 100 %
.....เรื่องทรงเจ้าเข้าผีขณะนี้ยิ่งน่าเศร้าใจ คนส่วนมากนิยมไปกราบไหว้บูชาคนทรง หรือบูชาภูตผีปีศาจ
.....ท่านทั้งหลายก็คงทราบดีอยู่แล้วว่า เรื่องของผีก็คือจะหลอกคน ฉะนั้นคบคนทรงก็เหมือนคบคบโกหกหลอกลวงโลกนั่นเอง
.....ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งหนึ่งสำหรับท่านที่นิยมทรงเจ้าเข้าผีว่า มันเป็นเรื่องของการโกหกหลอกลวงทั้งสิ้น
.....ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่คบค้าสมาคมกับคนทรงหรือหมอผี ไม่ช้าจะวิบัติ อย่าว่าแต่ผู้มีสมาธิจิตธรรมะดาเลย
..... แม้แต่พระภิกษุและผู้ที่มีสมาธิสูงๆ ถ้าไปยุ่งกับเรื่องผีๆ สางๆ ไม่ช้าก็ต้องวิบัติ
.....จะยกตัวอย่างให้ท่านฟังอีกเรื่องหนึ่ง
.....มีพระภิกษุรูปหนึ่งทรงความรู้ความสามารถในด้านการฝีกสมาธิ จนได้รับฉายาว่าพระฤาษีแห่งสำนักเขาสวนกวางจังหวัดขอนแก่น
.....มีความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านปริยัติและด้านปฏิบัติอย่างยิ่ง จนเป็นที่ยกย่องในหมู่ของนักฝึกสมาธิด้วยกัน มีลูกศิษย์ลูกหามามาย ยิ่งกว่านั้นยังเป็นศิษย์ผู้พี่ของท่านพ่อลีวัดอโศการามผู้ล่วงลับไปแล้ว
.....ความสามารถและกิตติศัพท์ของพระฤๅษี ผู้นี้ระบือไปไกลจนมีข่าวลือว่า ท่านคือพระศรีอารย์มาเกิด
.....ต่อจากนั้นไม่นานนักก็ได้ข่าวมาอีกว่า ท่านทรงเจ้าเข้าผี
.....พอทราบว่าข่าวนี้ข้าพเจ้าก็นึกสงสารอยู่ลำพังว่าเอาอีกแล้ว มามันหลอกได้อีกคนหนึ่งแล้ว และยังเป็นพระผู้ใหญ่ได้บำเพ็ญเพียรมาแรมปีอีกด้วย
.....อีกไม่ช้าคงจะถึงกาลวิบัติ ข้าพเจ้าคิดคนเดียว ไม่เคยปรารภกับใคร
.....จริงดังคาด ไม่กี่เดือนต่อมาได้ข่าวว่าท่านสึกเสียแล้ว อยู่ไม่ได้ เพราะลำพังกิเลสตัณหาที่เผาผลาญเราทุกวันนี้ ก็ยากจะอดกลั้นทนทานได้
.....ยิ่งหลงกลมารเหล่านี้ซ้ำเข้าไปอีกก็เหมือนกับเอาน้ำมันราดบนกองไฟ ฉะนั้นทราบเถิดว่า มารไม่เคยปรารถนาดีต่อใคร
.....ใบหน้าของข้าพเจ้ายิ่งหมองคล้ำ ราศีดำ ยิ่งรับมากขึ้นๆ จิตใจยิ่งเย็นชากระด้างขึ้นทีละน้อยๆไม่รู้ตัว
.....ยังไม่หมดเท่านั้น ข้าพเจ้าเริ่มแปลกใจยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าจะไปทางไหน ดูมันช่างเป็นที่สนิทเสน่หาของเหล่าอันธพาลทั้งหลาย ทั้งๆที่ข้าพเจ้าก็ไม่เคยไปคบค้าอะไรกับพวกมันเลย
.....เพิ่งจะมาทราบต่อภายหลังว่า คนเราทุกคนมีอายตนะดึงดูดกันอยู่ภายใน คล้ายกับเครื่องรับส่งวิทยุหรือโทรทัศน์ ความถี่ของคลื่นส่งมีเท่าไร คลื่นรับจะต้องมีเท่านั้น
.....ในเมื่อข้าพเจ้ามีอายตนะดึงดูดเป็นของมาร มีคลื่นมารแล่นอยู่ทั่วตัวทุกอากัปกิริยาต่อท่า “ข้านี้แหละตัวมาร”
.....ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่พวกมารหรือพวกอันธพาล ซึ่งมีราศีดำด้วยกันจะชอบชิดข้าพเจ้า
.....ยิ่งปรารภความเพียรแรงกล้าขึ้นมากเท่าใดไฟนรกก็โหมสุมใส่ประดังมาบนร่างกายและจิตใจของข้าพเจ้ามากขึ้นเท่านั้น
.....ยามกินยามนอนยากยิ่งจะหาความสุข มันทำให้เร่าร้อนทุรนทุรายเป็นทวีคูณซึ่งเรียกกันว่า ร้อนวิชา

ไม่มีความคิดเห็น:

การก่อผนังอิฐบล็อก

ที่มา :  https://itdang2009.com/อิฐบล็อก-และเทคนิคการก่/ อิฐบล็อก และเทคนิคการก่ออิฐบล็อก ...