วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ปลาช่อนรู้คุณ

วันนี้เป็นวันที่ครบรอบ10ปี ที่ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เราต้องจดจำไปตลอด...

วันที่ 1 พ.ค. 2548 เป็นวันที่อาจารย์ศิริพงษ์ได้จัดพิธีถวายมหาสังฆทาน  อีกทั้งเห็นว่าเป็นวันใกล้วันเกิดของพี่ชายซึ่งเกิดวันที่30เม.ย. เราจึงชวนแม่ พี่ชาย พี่สาวและน้องชาย รวม5คนแม่ลูก ไปถวายสังฆทานแถวถนนกาญจนภิเษกกันแต่เช้าตรู่ เสร็จพิธีก็ยังเช้าๆอยู่ แม่อยากไปปล่อยปลา พี่ชายก็ขับรถจากกาญจนภิเษกไปที่ตลาดไท รังสิต เพื่อซื้อปลาไปปล่อย

แม่ชอบปล่อยปลาช่อนเพราะแม่บอกว่าเป็นปลานำโชคให้แม่ พวกเราจึงหาร้านที่ขายปลาช่อนซึ่งก็มีอยู่หลายร้าน ก็เลือกร้านที่ไม่แพง  แม่เลือกตัวที่ไม่ใหญ่มาก เพราะจะได้ช่วยได้หลายชีวิต แต่ตอนนั้นเราชอบเลือกตัวที่ดูน่าสงสาร ตัวงอบ้าง ถลอกบ้าง หัวบุบบ้าง

เลือกไปเลือกมา  พอจะหยุด ก็เห็นตัวที่มันหลงเหลืออยู่ในกะบะปลา  อดไม่ได้ เลือกต่อ ไปๆมาๆเกือบหมด ใจจริงอยากเอามาทั้งหมดเลย แต่ไม่รู้จะไปวางไว้ตรงไหนของรถแล้ว รวมๆแล้ว10กว่าโล แบ่งเป็น3ถุงใหญ่

ถุงนึงอยู่กับแม่หน้ารถ  อีกถุงอยู่ที่น้องชาย อีกถุงอยู่ที่เรา ทีนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปปล่อยที่วัดไหนดี  แม่ในฐานะเจ้าถิ่นเสนอให้ปล่อยที่วัดนาบุญ อยู่แถวคลอง7 รังสิต-นครนายก  เพราะที่วัดนี้มีที่ให้สำหรับปล่อยปลา และมีป้ายปักไว้ว่าเป็นเขตอภัยทาน

ระหว่างที่เดินทางไปวัดนาบุญ  ปลาในถุงที่อยู่กับแม่และน้องชายกระโดดเป็นจังหวะๆพอให้สะดุ้ง แต่เราออกจะแปลกใจที่ปลาในถุงที่เราวางไว้บนพื้นรถนิ่งกันดีเหลือเกิน นิ่งซะจนอดที่จะรู้สึกไม่ได้ว่าหรือจะมีตัวใดตัวหนึ่งรู้ว่าพวกเรากำลังจะให้อิสรภาพแก่พวกมัน แล้วเจ้าตัวนั้นก็บอกให้เพื่อนปลาในถุงรู้  เราคิดไปโน่น  ก็มันรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ  เราก้มมองดูปลาช่อนในถุง เพื่อมองหาว่าตัวไหนน้าาาา แต่สักพักก็สลัดความรู้สึกเช่นนั้นออกไป และคิดว่าคงจะคิดมากไป

จนมาถึงที่วัด มีโป๊ะไม้ที่ใช้สำหรับปล่อยปลาดูเก่ามากแล้ว ทุกคนช่วยกันแกะถุงและปล่อยปลาลงสู่คลอง ปลาในถุงเรามีอยู่9ตัว เรานำถุงปลาไปวางไว้ที่ตีนบันไดและฉีกถุง ให้ปลาค่อยๆว่ายออกจากถุงไปเอง คือให้พวกปลาช่อนค่อยๆปรับตัวกับสภาพน้ำ และก็ลูบหัวลูบตัวพวกมันไปด้วย  ประมาณว่าปลอบใจ รอดแล้วนะ พวกมันพากันว่ายออกไปจากถุง

ทีนี้ก็เหลืออยู่ตัวนึง ยังไม่ยอมไป ดูยังเป็นปลารุ่นๆอยู่ ตัวไม่ใหญ่ ที่บนหัวของมันเหมือนมีรอยบุบนิดๆ คิดว่ามันคงเจ็บ เลยใช้มือซ้ายประคองที่ใต้คางและตัวของมัน  และใช้นิ้วหัวแม่มือลูบหัวมันเบา ลูบตรงที่เป็นแผลด้วย เวลาเริ่มผ่านไปนาน จนเราเริ่มจะเป็นห่วงเจ้าปลาช่อนน้อยตัวนี้ ทำไมมันไม่ยอมไปไหนสักที ถุงเราก็เก็บขึ้นไปหมดแล้ว

ทีนี้พี่สาวเริ่มเดินมาดู เราเริ่มใช้มือผลักมันออกไป  มันก็ยังทำตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้น  ไม่ยอมว่ายไปไหนต่อ เราเริ่มทำเป็นลุกเดินออกไป แล้วโบกมือให้มันว่ายออกไป เจ้าปลาช่อนน้อยเริ่มมีปฏิกิริยา มันว่ายออกไปหน่อยนึง แต่แล้วก็หันมากลับมาทางเราต่อ พวกเราช่วยกันโบกมือให้มันว่ายออกไป  เจ้าปลาช่อนน้อยก็ว่ายออกไปที่หน้าโป๊ะ ห่างออกไป2เมตร แล้วก็หันกลับมาทางที่พวกเรายืนอยู่

พี่สาวบอกว่ามันมองมาทางเราแหน่ะ เราเริ่มทำการทดสอบโดยเปลี่ยนที่ยืน ปรากฎว่าเจ้าปลาช่อนน้อยตัวนั้นหันตาม พวกเราช่วยกันโบกมือให้มันว่ายออกไปหรือดำลงไปข้างใต้โป๊ะหลบซ่อนตัวซะ แต่มันก็ยังคงไม่ยอมไปไหน

เราก็เลยใช้ไม้ยาวๆเขี่ยไปที่ตัวมัน  แต่เจ้าช่อนน้อยกลับทำตัวแข็งทื่อ ถูกผลักไสไปตามไม้ แต่ไม่มีทีท่าว่ายหนีไม้ที่เราเขี่ยไปโดนตัวมันเลย บอกตามตรงว่าช่วงเวลาที่ใช้ไม้เขี่ยเพื่อให้มันว่ายหนีไปนั้น รู้สึกเจ็บปวดใจมากๆ เหมือนท่านมีลูกหรือสัตว์เลี้ยงแสนรักแต่จำต้องแสร้งเป็นผลักไสให้เผชิญโลกภายนอกโดยลำพัง โดยที่ไม่รู้ชะตากรรมว่าพวกเค้าเหล่านั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป

เราเลิกที่จะใช้ไม้ผลักไสมันออกไป  ยืนดูเจ้าช่อนน้อยอยู่สักพักนึง สลับกับโบกมือเป็นพักๆเจ้าช่อนน้อยก็ยังอยู่ที่เดิม  เราไม่รู้ว่าเจ้าช่อนน้อยตัวนี้จะรู้เรื่องหรือเข้าใจเกี่ยวกับปฏิกิริยาของมนุษย์หรือไม่อย่างไร

ด้วยความที่ต้องการคำตอบที่จะทำให้มั่นใจว่าเจ้าช่อนน้อยตัวนี้รู้เรื่องทุกอย่าง เข้าใจทุกอย่าง เราเลยเสนอว่าเดี๋ยวพวกเราลองแกล้งเดินกลับ  พวกเราเดินเรียงแถวกันไปบนคันคอนกรีต พร้อมกับโบกมือบ๊ายบายเจ้าช่อนน้อยตัวนั้น คืออยากรู้ว่าเจ้าช่อนน้อยจะเข้าใจมั้ย

เจ้าช่อนน้อยพอเห็นพวกเราจะจากมันไปจริงๆแล้ว มันว่ายมาอย่างรวดเร็วตรงดิ่งมายังตำแหน่งที่เรายืนอยู่พอดี เรารีบนั่งลงคุกเข่าเพื่อที่จะเอื้อมมือไปแตะเจ้าช่อนน้อยเพื่อเป็นการบอกลา แต่คันคอนกรีตสูงเกินไป ปลายนิ้วของเราแค่เกือบจะถึงผิวน้ำ เจ้าช่อนน้อยอยู่ใต้ปลายนิ้วมือ เราไม่อาจสัมผัสเจ้าช่อนน้อยเป็นครั้งสุดท้ายได้ สักพักช่อนน้อยก็ว่ายออกไปตรงหน้าโป๊ะ และหันกลับมาทางที่พวกเรายืนอยู่ พวกเราโบกมือขอให้มันอยู่รอดปลอดภัย เจ้าช่อนน้อยว่ายดำดิ่งลงไปใต้โป๊ะอย่างรวดเร็ว

ทั้งหมดที่ได้ถ่ายทอดลงมานี้ ก็เพียงแต่อยากจะบอกเล่าเรื่องราวจิตวิญญาณความรู้สึกของปลาตัวหนึ่ง ซึ่งมาจากบ่อเลี้ยง ไม่เคยได้รับการปฏิบัติที่ดีจากมนุษย์  ถูกเคลื่อนย้ายขนส่งมาอย่างไร้ความเมตตาเพื่อนำมาจำหน่าย เนื้อตัวมีแต่ร่องรอยของการถูกกระแทก แต่เพราะเหตุใดเจ้าช่อนน้อยตัวนี้จึงดูเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่าง และอีกนับไม่ถ้วนที่ไม่มีโอกาศได้ร้องขออะไรเลย...




วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

มอง

บุคคลผู้มีจิตคิดดี มีความปรารถนาในเรื่องสูงส่งนั้นมีอยู่จริง การพูดคุยเรื่องบางเรื่อง ผู้มีจิตปรารถนาเช่นเดียวกันจึงเข้าใจ มิเช่นนั้นก็จะถูกมองเป็นอื่น

แต่หากบุคคลเหล่านั้นยังจำเป็นต้องใช้ชีวิตท่ามกลางโลกียะ จึงอาจมีหลุดบ้างตามกระแส ตามกำลังที่สั่งสมกันมา  ด้วยเหตุนี้จึงมักถูกมองเป็นอื่นตามแต่ผู้มองจะปรุงแต่งทางความคิดกันไป

การก่อผนังอิฐบล็อก

ที่มา :  https://itdang2009.com/อิฐบล็อก-และเทคนิคการก่/ อิฐบล็อก และเทคนิคการก่ออิฐบล็อก ...