วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ผจญมาร (ตอนที่ 10 จบตอน)

โดย เผด็จ ผ่องสวัสดิ์ บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ปัจจุบัน คือ พระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ
อ้างอิงจาก facebook โอวาทอันทรงคุณค่าจากพระพ่อ



***กรรมฐาน 40
.....การฝึกทั้งสี่สิบวิธีที่กล่าวไว้ในวิสุทธิมรรคต่างถูกต้องทั้งนั้น แต่ต้องเลือกฝึกให้ถูกกับอัธยาศัยของตน
เช่นพวกที่รักสวย รักงามติดรูป ติดเสียง ท่านให้ฝึกเพ่งอสุภะ จิตใจจะได้สลด ละรูป ละเสียงได้เร็ว แล้วเลือกวิธีอนุสติอื่นๆ ฝึกต่อไปจนกว่าจะเห็นมรรคผล
.....ส่วนพวกที่มีโทสจริตควรจะฝึกเพ่งกสิณ เพราะต้องเพ่งกำหนดอย่างสำรวยจริงจังทำให้ละโทสะได้เร็ว
.....บุคคลทั้งสองจำพวกดังกล่าว ถ้ายังฝึกฝนมายังไม่ดีพอ จิตใจยังคับแคบเข้าไม่ถึงแก่นแท้มักจะเป็นปากเสียงกันเอง หลงเข้าใจว่า วิธีของตนดีที่สุด ฝ่ายตรงกันข้ามเป็นฝ่ายผิด
.....ข้าพเจ้าฝ่ายการอบรมจากหลายครูมากอาจารย์ ทั้งอุบาสก อุบาสิกา ทั้งพระทั้งมาร จนสามารถจะกล่าวได้ว่า วิธีการฝึกทั้งสี่สิบวิธีนั้น พอจะเข้าใจได้หลายส่วน
.....และสรุปได้ว่า การฝึกทั้งหมดที่กล่าวไว้ในวิสุทธิมรรคนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นหมวดใหญ่สามหมวดด้วยกันตามผลของการปฏิบัติเบื้องต้นว่า :-
.....หมวดที่หนึ่ง เมื่อฝึกแล้ว ถ้ายังไม่ไม่ถึงที่สุด จะเกิดความรู้นำหน้าแต่ยังไม่เห็น (รู้ไม่ทันเห็น)
.....ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราปิดสวิทซ์ไฟเราก็รู้ว่าไฟฟ้าจะวิ่งไปตามสายเข้าสู่หลอดไฟแล้วเกิดแสงสว่างแต่เราไม่เคยเห็นว่า ตัวไฟฟ้ามีรูปร่างลักษณ์เป็นอย่างไร
.....การฝึกในหมวดที่หนึ่งได้แก่ การเพ่งอสุภะและกำหนดลมหายใจเข้าออกเป็นต้น
.....เมื่อฝึกแล้วจะเกิดความรู้ในสภาวธรรมได้เร็วมาก รู้ว่าทำบุญย่อมได้บุญจริง ทำชั่วย่อมได้บาปจริง รู้ว่านรกมีจริงและสวรรค์ก็มีจริง
.....แต่พอถามว่าเคยเห็นหรือว่านรกและสวรรค์เป็นอย่างไร ก็ตอบไม่ได้เพราะไม่เคยเห็นแต่รู้ว่ามี หรือถ้าเห็นก็มักเห็นไม่ค่อยตรงตามร่อยรอยของพระศาสนาเต็มที่นัก
.....หมวดที่สอง เมื่อฝึกแล้วจะเห็นแต่ไม่มีความรู้ (เห็นไม่ทันรู้) ยกตัวอย่างเช่น
.....เด็กๆไปยืนอยู่ริมทะเลยามเช้า และเห็นว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออก ครั้งเย็นลงก็เห็ฯพระอาทิตย์ลับไปทางทิศตะวันตก
.....เห็นวนเวียนอย่างนี้ทุกวัน แต่เด็กไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่าโลกกลม
.....การฝึกในหมวดนี้ ได้แก่การฝึกเพ่งกสิณต่างๆ เช่น เพ่งวงกลมดิน วงกลมน้ำเป็นต้น แต่เอาจิตไปตั้งไว้นอกกาย เช่นตั้งไว้ที่วงกลมเหล่านั้น
.....เมื่อฝึกจนเห็นนิมิตดวงกสิณแล้วก็สามารถจะเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าหรือนรกสวรรค์ได้
.....ขณะที่อยู่ในสมาธิเขาอาจะเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าว่า นาย ก. ถ้าออกจากบ้านไปในวันนี้จะต้องถูกรถยนต์ชนตาย แต่ก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
.....หรือเห็นว่า นาย ข. ถ้าออกจากบ้านในวันนี้จะต้องไปได้ลาภ แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน
.....ทั้งนี้เพราะการเห็นไม่ค่อยชัดเจนเท่าที่ควร จึงทำให้เกิดความงามงายคือเชื่อดวง แทนที่จะเชื่อกรรม
.....ผู้ที่ฝึกในหมวดที่หนึ่งมักจะไม่ยอมเชื่อว่า ผู้ที่ฝึกในหมวดที่สองสามารถเห็นอะไรแปลกๆได้
.....และผู้ที่ฝึกในหมวดที่สองก็มักจะไม่เชื่อว่าผู้ที่ฝึกในหมวดแรกจะรู้อะไรเกินกว่าที่ตัวเขารู้ได้
.....บุคคลที่ฝึกในสองหมวดแรกนี้จึงมักจะเป็นปากเสียกันบ่อยๆ
.....ต้องให้พวกที่ฝึกหมวดที่สามเป็นผู้ตัดสิน แก้ข้อข้องใจให้
.....หมวดที่สาม การฝึกในหมดที่สามนี้ ทำให้เกิดความรู้และสามารถเห็นได้ แม้จะฝึกค่อนข้างยากกว่าสองหมวดแรกบ้าง แต่มีประโยชน์มหาศาล
.....ผู้ที่ฝึกจะเห็นภาพการกระทำของนาย ก. ตั้งแต่อดีตชาติจนปัจจุบัน ตลอดจนอนาคต
.....และจะรู้ด้วยว่าเนื่องจากผลกรรมปาณาติบาตจึงทำให้เขาถูกรถชนตาย
.....และทั้งรู้ทั้งเห็นว่าที่นาย ข. ออกจากบ้านจะได้ลาภ เพราะผลทานในอดีตและปัจจุบันได้ตามมาทันแล้ว
.....สำหรับผู้ที่ฝึกในหมดที่หนึ่ง เมื่อเกิดความรู้แล้ว ถ้าต้องการให้เกิดความรู้แล้ว ถ้าต้องการให้เกิดความเห็นเหมือนอย่างในหมวดที่สามด้วย ก็จะทำได้ง่ายมาก โดยการเปลี่ยนที่ตั้งจิตใหม่
.....เป็นต้นว่า เคยตั้งจิตไว้ที่หน้าท้องหรือปากช่องจมูก ครั้งกำหนดลมหายเข้าออกจนจิตสงบดี มีความสว่างหรือเห็นดวงสว่างขนาดต่างๆ กันเกิดขึ้นลอยคว้างอยู่ข้างหน้าแล้ว
.....ก็ให้น้อมเอาดวงสว่างนั้นเข้าไปไว้ภายในท้อง ตรงกลางกาย
.....(นึกขึงเส้นด้ายสองเส้นให้ตึงตรงเหนือสะดือสองนิ้ว น้าทะลุหลัง ขวาทะลุซ้า ตรงจุดกึ่งกางที่เส้นด้ายทั้งสองตัดกันเรียกว่า กลางกาย)
.....ดาวงสว่างที่เห็นจะขยายใหญ่เต็มที่สว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์รวมกัน แล้วมองเข้าไปตรงศูนย์กลางดวงสว่างนั้นไม่ยอมถอน
.....ก็จะเกิดความรู้และสามารถเห็นพร้อมกันไป
.....สำหรับผู้ที่เคย เพ่งกสิณและเพ่งเทียน ก็เช่นกัน
.....ให้น้อมเอาดวงกสิณไปไว้ตรงกลางกายตามวิธีดังกล่าวก็จะสามารถเห็นนิมติได้ชัดขึ้นกว่าเดิม
.....แล้วกำหนดจิตอยู่ตรงนั้นนิ่งๆ เหมือนพวกที่ฝึกในหมวดแรกก็จะเกิดทั้งความรู้และความเห็นเช่นกัน จะได้ไม่ต้องเป็นปากเป็นเสียงกันต่อไป
.....สำหรับผู้ที่ฝึกใหม่ข้าพเจ้าขอแนะนำให้ฝึกในหมวดที่สามโดยตรง
.....จะสามารถเรียนลัดย่นระยะการฝึกลงได้หลายสิบปี และสามรถจะรู้เห็นได้ไกลกว่าพวกที่ฝึกในสองหมวดแรก
.....หลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ล่วงลับไปแล้วก็ฝึกอยู่ในหมวดที่สาม
.....จึงถูกผู้ที่ไม่รู้จริงกล่าวร้ายถึงกับมีคณะกรรมการสงฆ์ไปสอบสวนว่าท่านหลอกลวงประชาชน
.....แต่ยังนับว่าเป็นโชคดีของชาวพุทธทุกคน ที่ไม่ต้องสูญเสียวิธีปฏิบัติธรรมอันชาญฉลาดในหมวดที่สามไป
.....คณะกรรมการสงฆ์ที่ส่งไปสอบสวนในครั้งนั้นได้มีอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ร่วมไปด้วย
.....ท่านรูปนี้มีความรู้แตกฉานในการฝึกสมาธิวิปัสสนากรรมฐานทั้งสี่สิบวิธี ให้คำยืนยันว่าการปฏิบัติธรรมของวัดปากน้ำภาษีเจริญ ถูกต้องทุกประการหลวงพ่อจึงพ้นมลทินฯ

***ส่งท้าย
.....เมื่อท่านอ่านบันทึกนี้แล้ว หวังว่าท่านคงจะได้ข้อเตือนใจให้ละทิ้งวิชามาร หันมาปฏิบัติธรรมให้ถูกต้องร่องรอยของพระศาสนา
.....อย่าปล่อยให้ราศีดำขึ้นจนเต็มหน้าจะยากต่อการแก้ไข สิ้นชีวิตแล้วะต้องตกนรก พ้นเวรจากนรกก็จะมีมิจฉาทิฏฐิติดตัว
.....แม้จะไปพบพระพุทธเจ้าเบื้อหน้าอีกก็จะถูกมารชักจูงให้หลงเป็นพวกเดียรถีย์ทำลายศาสนาก่อบาปกรรมอีกมากมาย
.....สำหรับท่านที่เดินถูกทางมาแล้วก็ขอให้เดินต่อไปอย่าเห็นแก่เหน็ดเหนื่อยและอย่าประมาท
.....พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมงคลเทพมุนีเคยเตือนสติเสมอว่า
.....ชนโคควายทั่วกายเท่าใดเล่า
.....แต่มีเขาเพียงคู่ไว้สู้สิงห์
.....หวังนิพพานล้านแสนแม้นทำจริง
.....ทั้งชายหญิงรอดไปไม่กี่คน
.....วัวแต่ละตัวมีเขาเพียงคู่เดียว แต่มีขนจำนวนมากมาย ฉะนั้นใครต้องการจะหลุดพ้น ซึ่งเปรียบเสมือนเขาโคก็ต้องเร่งระวังตนอย่าประมาท
.....สำหรับอาจารย์ทุกท่าน ที่เคยอุปการะเลื้ยงดูและรักข้าพเจ้าประดุจบุตร มีความปรารถนาดีต่อข้าพเจ้าตลอดมา
.....พระคุณของท่านใหญ่หลวงนัก และยังตรึงฝังแน่นในดวงใจไม่รู้คลาย
.....ทุกท่านที่สอนวิชามารให้ข้าพเจ้าก็เป็นเพราะรู้เท่านไม่ทันเหลี่ยมมารย่อมได้รับการอภัยจากท่านผู้อ่าน และการที่ข้าพเจ้าเขียนตำหนิวิชามาร ก็เพื่อต้องการชี้แจงเหตุผลและข้อเท็จจริง
.....ถึงแม้จะเป็นการแระทบกระเทือนกันบ้างก็ไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่ครูอาจารย์ ข้าพเจ้าอาจถือเอาบุญคุณส่วนตัวมาบิดเบือนความจริงอันเป็นประโยน์ต่อส่วนรวมและพระศาสนา
.....ทั้งนี้ย่อมถือได้ว่า ข้าพเจ้าเป็นศิษย์ไม่เคยคิดจะล้างครู แต่เป็นศิษย๋ที่ยิ่งด้วยศิษย์ เพราะอาจารย์สามารถใช้สอยและพึ่งพาได้

เผด็จ ผ่องสวัสดิ์
9 ธันวาคม 2512

ไม่มีความคิดเห็น:

การก่อผนังอิฐบล็อก

ที่มา :  https://itdang2009.com/อิฐบล็อก-และเทคนิคการก่/ อิฐบล็อก และเทคนิคการก่ออิฐบล็อก ...