วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การทำวิชชา “เก็บเมฆ หมอก ลม ฝน”


เล่าโดย จิตอารีย์ ( วิทยากร สถาบันพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย )

พระเดชพระคุณ หลวงพ่อวัดปากน้ำ (สด จนฺทสโร)
ได้เทศน์ไว้ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๗ ว่า.....

“ ในศาลานี้ ก็มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เต็มไปหมด
แต่ผู้ใดจะให้ฝนตก ผู้นั้นต้องทำฝนเป็น
เรียกฝนเป็น แก้ไขทำฝนขึ้นได้ ทำน้ำขึ้นได้
ผู้เทศน์นี้ได้เคยแก้ไขมาแล้ว จะแก้ไขเกณฑ์ฝนได้เหมือนกัน ”


นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ อานุภาพวิชชาธรรมกาย...ของพระพุทธเจ้า
ที่ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ได้สั่งสอนถ่ายทอดมายัง หลวงพ่อวีระ คณุตฺตโม
(รองเจ้าอาวาส และ พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ)

และถ่ายทอดต่อมาถึง หลวงป๋าเสริมชัย ชยมงฺคโล 
(เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี)

รวมทั้งที่ได้ถ่ายทอดต่อมาถึงศิษยานุศิษย์ในปัจจุบันนี้

เป็นสิ่งยืนยันว่า การทำวิชชา หรือ อภิญญา...เป็นเรื่องที่ทำได้จริง
ไม่ใช่มีแต่ตัวอักษรอยู่ในตำราเท่านั้น
และ วิชชา๓  อภิญญา๖  อันมีอาสวักขยญาณ...เป็นที่สุดนั้น
ก็มีอยู่อย่างสมบูรณ์...ในวิชชาธรรมกาย
ซึ่งข้าพเจ้าจะขอนำเอาประสบการณ์
ที่ได้จากการเจริญภาวนาตามแนววิชชาธรรมกาย...มาเล่าสู่กันฟัง
เพื่อเสริมศรัทธาแก่ผู้สนใจในการปฏิบัติธรรมทั้งหลาย ดังนี้

ในวันที่ ๑ - ๒๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๑
ได้มีการจัดอบรมกัมมัฏฐานตามแนววิชชาธรรมกาย แก่สามเณรที่บวชภาคฤดูร้อน
รวมทั้งฆราวาส อุบาสก อุบาสิกา ที่วัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง

ข้าพเจ้า พร้อมด้วยคณะศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ
และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิพุทธภาวนาวิชชาธรรมกายอีกหลายท่าน
ได้ติดตาม หลวงป๋า เดินทางจากกรุงเทพไปยัง จ.ลำปาง
เพื่อไปสอนกัมมัฏฐาน และ ต่อวิชชาแก่สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ที่มาปฏิบัติธรรม
ปรากฏว่า มีสามเณร และ ฆราวาสหลายท่าน...ได้เข้าถึงธรรม
และได้รับการ “ต่อวิชชาชั้นสูง” อีกด้วย

ในวันที่ ๑๙ เมษายน ข้าพเจ้าและคุณวลี มีธุระต้องเดินทางกลับกรุงเทพ
โดยเที่ยวบิน TG173  เป็นเครื่องบินแบบ SH300 ซึ่งเป็นเครื่องบินขนาดเล็ก
ซึ่งจะบินไปแวะที่ จ.แพร่  ก่อนจะถึงปลายทางที่ จ.พิษณุโลก
จากนั้นพวกเราจะต้องเปลี่ยนเครื่องตรงเข้ากรุงเทพ อีกทีหนึ่ง

เมื่อเราทั้งสองคนมาถึงสนามบิน จ.ลำปาง
สภาพอากาศก่อนหน้านั้น ที่ดูค่อนข้างแจ่มใส
ก็เริ่มมีกระแสลมกรรโชกแรง พัดเอาฝุ่นฟุ้งกระจายเป็นครั้งคราว
ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม จากนั้นฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก
พร้อมกับมีกระแสลมแรง พัดเข้าปะทะอาคารสถานีเป็นระยะๆ
ทั้งลมและฝน...ได้เพิ่มความแรงขึ้นเรื่อยๆ

ขณะนั้นเป็นเวลา ๑๕.๐๕ น. ซึ่งตารางเที่ยวบินนี้จะออกในเวลา ๑๕.๑๐ น.
คุณวลีได้พูดกับข้าพเจ้าว่า ถ้าฝนยังตกหนักและลมแรง จนมองไม่เห็นสนามบินอย่างนี้
พวกเราคงไปไม่ทันขึ้นเครื่องบินที่พิษณุโลก เพื่อเข้ากรุงเทพเป็นแน่
เพราะเขาจะไม่นำเครื่องบินขึ้น ภายใต้ทัศนวิสัยที่ไม่ดีเช่นนี้

เราทั้งสองคนจึงสงบใจเข้าที่ “ เจริญวิชชาธรรมกายชั้นสูง ”
เพื่อเก็บเหตุในเหตุ ไปถึงต้นๆเหตุของภัยพิบัติ ในธาตุในธรรมที่สุดละเอียด
ซึ่งอาจส่งผลถึงธาตุธรรมส่วนหยาบ...ให้หมดสิ้นไปจากธาตุธรรม “เห็น จำ คิด รู้”
ของกายในกายทุกกาย สุดกายหยาบกายละเอียดของเรา

พอถึงเวลา ๑๕.๑๐ น.
สายลมก็เริ่มอ่อนตัวลง เหลือไว้เพียงฝนเม็ดเล็กๆที่ยังตกลงมาบ้าง
พวกเราจึงได้ขึ้นเครื่องบินตามเวลา
หลังจากที่เครื่องบินเหินขึ้นฟ้าได้สักพักหนึ่ง
ผู้โดยสารทั้งหมดที่อยู่บนเครื่อง ก็รู้สึกเหมือนโดนจับโยนลงไปในหลุมอะไรสักอย่าง
เครื่องบินเหมือนถูกกระแทกกับความว่างเป็นช่วงๆ จากการตกหลุมอากาศ

ข้าพเจ้าจึง เจริญวิชชาชำระธาตุธรรม 
“เห็น จำ คิด รู้” ของกายในกายทุกกาย สุดกายหยาบกายละเอียด...จนใสสะอาดบริสุทธิ์ดี
ถึงธาตุล้วนธรรมล้วนของพระพุทธเจ้า จักรพรรดิ ภาคผู้เลี้ยง ... ฯลฯ
และ ต้นธาตุต้นธรรม...ในที่สุดละเอียดของเขตธาตุเขตุธรรม

แล้วจึงน้อมเอาเส้นทางบิน ที่เครื่องบินจะผ่านไป...ให้ปราศจาก เมฆ หมอก ลม ฝน
ด้วยการ ทำวิชชา “เก็บเหตุ” ทั้งหลายเหล่านั้น

แต่ขณะที่เพิ่งเริ่มทำวิชชาเก็บเหตุอยู่นี้
ก็รู้สึกตัวว่า เหมือนถูกจับโยนลงไปในหลุมเป็นช่วงๆอีก
มันวูวแล้ว วูวอีก ไม่ให้ตั้งตัวเลย
ส่วนภายในใจ ก็รับรู้ได้ว่า...
ขณะนี้เครื่องบินกำลังตกอยู่ท่ามกลางอากาศ...ที่แปรปรวนมาก


แม้จะเคยนั่งเครื่องบินมาแล้วหลายหน
แต่ก็เพิ่งมาเจอเหตุการณ์อย่างนี้เป็นครั้งแรก
แวบหนึ่งของจิต ที่มีความกังวล...ปนแทรกเข้ามา
ประกอบกับอาการสั่นคลอนของเครื่องบิน...ที่ทวีมากขึ้น
ใจจึงเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน จิตจึงเคลื่อนออกจากสมาธิ


เพราะสติมาจับอยู่กับเรื่องภายนอก
จึงส่งผลให้ความกลัวอันเป็นนิวรณ์...เกิดแทรกขึ้นในใจได้
เมื่อมีสติรู้เท่าทันจิตอย่างนี้
ข้าพเจ้าจึงเริ่มจรดใจเข้าไปใหม่
ทุ่มปักใจเข้ากลางของกลางต่อไปตามลำดับ
อารมณ์ที่หวาดกลัว...ก็หายไป

เมื่อใจตั้งมั่นเป็นสมาธิ
เข้าสู่ศุนย์กลางของ “องค์ต้นธาตุต้นธรรม” ได้อีกครั้งหนึ่ง
ในท่ามกลางจิตที่อยู่ในสมาธินั้นเอง
เสียงที่ก้องกังวานทรงอำนาจของ หลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ก็ดังขึ้นว่า..


“ กลัวตายละซี่ นี่แหละลักษณะของใจคนที่ใกล้จะตาย
เพราะที่กลัวความตาย ใจก็ลอยเผินขาดสติอย่างนี้...จำเอาไว้ ”


เสียงหลวงพ่อเทศน์ขนาบเข้าให้ โดยเอาเราเป็นตัวอย่างเสร็จ
แต่หลวงพ่อ ก็ยังคงมากไปด้วยความเมตตาอีกเช่นเคย
เพราะท่านสั่งต่อไปว่า...

“ เมื่อเครื่องบินมันตกวูบอีก
เจ้าจงเอามันตกศูนย์ไปด้วย พร้อมกับใจของเจ้าดูซิ  ”

.....สิ้นเสียงของบูรพาจารย์


ข้าพเจ้าก็เริ่มอธิษฐานอาราธนา “ต้นธาตุต้นธรรม” 
ซึ่งเป็นธาตุล้วนธรรมล้วน ที่ใสบริสุทธิ์ที่สุดนั้น
...ทับทวีขึ้นมาเป็นเรา นับอสงไขยอายุธาตุอายุบารมีไม่ถ้วน
เพื่อดับ หรือ เก็บธาตุธรรมภาคดำต่อไป
พร้อมๆกับน้อมเอา เครื่องบินและผู้โดยสารทั้งหมด...เข้ากลางของกลาง
กำหนดเดินวิชชา “เก็บเมฆ หมอก ลม ฝน” พร้อมกันไป

ดังนั้น เมื่อเข้าสู่ที่สุดละเอียดขององค์ต้นๆ
เครื่องบินและทุกคนในเครื่องบิน ที่เป็นส่วนละเอียด...ก็พลอยใสสะอาดตามไปด้วย
เพราะได้ตกศูนย์ผ่านเข้าสู่การควบคุมของ ... “ องค์ต้นธาตุต้นธรรม ” แล้ว

ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเจริญภาวนาผ่านวิชชาอย่างรวดเร็วนั้น
ก็ได้รู้ตามกระแสขอบข่ายของ “ ญาณทัสนะ  ” ว่า .....
เครื่องบินกำลังลอยอยู่ในห้วงของอากาศ...ที่เป็นปกติแล้ว
มีแต่เฉพาะส่วนรอบนอกๆออกไป ที่ยังมีพายุลมแรงอยู่
และยังเห็นว่า เส้นทางที่จะบินไปนั้น...ปลอดโปร่งไปตลอดทาง

เมื่อสถานการณ์กลับคืนสู่สภาพปกติ
ผู้โดยสารหลายคนถอนหายใจ และเริ่มขยับตัวพูดคุยกันบ้าง
หลังจากที่นั่งเกร็งเกาะเก้าอี้ ปิดปากเงียบมาพักใหญ่
เมื่อเครื่องบินแวะลงจอดที่สนามบิน จ.แพร่
ข้าพเจ้าพบว่า ที่นี่ไม่มีฝนตกสักเม็ดเดียว

และเมื่อเครื่องบินเดินทางต่อไปจนถึง จ.พิษณุโลก
เราทั้งสองคนก็ได้นั่งเครื่องบิน โบอิ้ง737
ซึ่งเป็นเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่กว่าลำเดิม เดินทางกลับกรุงเทพ
ถึงสนามบินดอนเมือง ในเวลา ๑๘.๒๕ น.
จากเหตุการณ์ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง อานุภาพวิชชาธรรมกาย...ของพระพุทธเจ้า
ซึ่งหากผู้ปฏิบัติธรรมได้ศึกษาอบรมอย่างจริงจัง
ย่อมสามารถปฏิบัติเข้าถึงได้ และย่อมยังประโยชน์สุขแก่ตนเองได้เป็นอันมาก

ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่ปรากฏ มีอยู่ของ “ วิชชาในพระพุทธศาสนา ” ทั้งสิ้น

* เรียบเรียงบางตอนจากบันทึกของ
จิตอารีย์ (วิทยากร สถาบันพุทธภาวนาวิชชาธรรมกาย)

** ที่มา
นิตยสารธรรมกาย ฉบับที่ ๑๐
ตุลาคม – ธันวาคม  ๒๕๓๑

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เหตุเกิดที่แคว้นปันจาบ  อินเดีย  ลูกหมา 2 ตัวตกลงไปในบ่อ อยู่ร่วมกับงูเห่า 48 ชั่วโมง ระหว่างที่รอให้ จนท.ป่าไม้มาช่วย โดยที่งูเห่าไม่ทำอะไรลูกหมาเลย ทั้ง 3 ชีวิตปลอดภัยในตอนจบ



คาดว่าคงจะหวาดกลัวกันทั้งงูทั้งลูกสุนัข

การก่อผนังอิฐบล็อก

ที่มา :  https://itdang2009.com/อิฐบล็อก-และเทคนิคการก่/ อิฐบล็อก และเทคนิคการก่ออิฐบล็อก ...